Microneedle RF คือ ? นวัตกรรมใหม่ บอกลาหลุมสิว เผยผิวใสทันใจ

เคยรู้สึกไหมว่าเราดูแลผิวอย่างดี ทาครีมทุกตัวตามขั้นตอนครบ แต่ทำไมพอมองกระจกแล้วก็ยังรู้สึกว่าผิวเรายังไม่เนียนใสอย่างที่ใจต้องการ ทั้งหลุมสิว รูขุมขนกว้าง หรือริ้วรอยเล็ก ๆ ก็ยังแอบมาทักทายอยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะพยายามแต่งหน้ากลบแค่ไหน ก็เหมือนผิวมันไม่พร้อมสำหรับงานผิวที่แท้จริง วันนี้เรามีเทคโนโลยีที่อยากมาแนะนำกัน นั่นก็คือ Microneedle RF คือ นวตกรรมตัวช่วยใหม่ที่เราเองได้ลองแล้วต้องบอกว่า ได้ลองแล้วจะลืมหัตถการอื่น ๆ ไปเลย ซึ่งหัตการนี้มีความพิเศษ นั่นก็คือ มีการผสมผสานระหว่างคลื่นวิทยุ (RF) และเข็มขนาดเล็กที่ทำงานได้ลึกถึงชั้นผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างตรงจุด และที่สำคัญคือไม่ต้องพักฟื้นนานเหมือนเลเซอร์บางประเภท สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีบอกลาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง และอยากฟื้นฟูผิวให้ใสทันใจ ต้องไม่พลาดบทความนี้ เดี๋ยวเราจะมาเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟัง ว่าทำไม ไมโครนีดเดิลอาร์เอฟถึงเป็นไอเท็มลับใหม่ของสายบิวตี้ที่ไม่ควรพลาด


Microneedle RF คือ ? นวัตกรรมฟื้นฟูผิวลึกที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว

Microneedle RF คือ นวัตกรรมฟื้นฟูผิวลึกที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว

ตัวช่วยใหม่ที่ฟื้นฟูผิวล้ำลึกกว่าที่เคย

ถ้าพูดถึงปัญหาผิวที่หลายคนบ่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหลุมสิว รูขุมขนกว้าง หรือริ้วรอยเล็ก ๆ ที่ไม่ยอมหายไปไหน ต่อให้ลองครีมแพงแค่ไหน ก็เหมือนยังไม่ตอบโจทย์ใช่ไหม? วันนี้เราจึงอยากมาเล่าให้ฟังถึงเทคโนโลยีที่เคยลองเองแล้วปลื้มมาก นั่นก็คือ Microneedle RF ค่ะ

เจ้าเทคโนโลยีนี้ผสมผสานระหว่าง เข็มขนาดเล็ก กับ พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ที่ทำงานลึกถึงชั้นผิวเลยค่ะ เข็มเล็ก ๆ จะช่วยสร้างบาดแผลจิ๋วในผิว เพื่อกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน และ อีลาสติน ที่เป็นเหมือนโครงสร้างสำคัญของผิว ทำให้ผิวใหม่ดูเนียนใสและกระชับกว่าเดิม แถมยังเหมาะกับการแก้ปัญหาผิวแบบตรงจุด ทั้งหลุมสิวรูขุมขนกว้าง หรือแม้แต่รอยแดงจากสิวก็เอาอยู่

Microneedle RF คือ ทำงานอย่างไร? ฟื้นฟูผิวแบบลึกแต่ปลอดภัย

ขั้นตอนของหัตถการนี้ ฟังดูอาจน่ากลัวสำหรับคนที่ไม่ชินกับเข็ม แต่บอกเลยว่าเข็มที่ใช้เล็กมากจนแทบไม่รู้สึกเลย เมื่อเทียบกับหัตถการ Potenza ระหว่างที่เข็มเจาะลงไปในชั้นผิวลึกประมาณ 0.5-3 มิลลิเมตร (ขึ้นอยู่กับจุดที่รักษา) จะมีพลังงานคลื่น RF ปล่อยออกมา เพื่อช่วยกระตุ้นให้คอลลาเจนในผิวถูกสร้างขึ้นใหม่

พลังงาน RF ที่ใช้มีอุณหภูมิประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัยมาก ความร้อนตรงนี้ไม่เพียงช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ แต่ยังทำให้โครงสร้างคอลลาเจนเก่าถูกจัดเรียงตัวใหม่อย่างแน่นหนา ผิวเลยดูกระชับและฟูขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ต่างจากเลเซอร์ทั่วไปยังไง? ทำไม Microneedle RF ถึงพิเศษกว่า

สิ่งทำให้หลาย ๆ คนชอบที่สุดคือไม่ทำลายผิวชั้นบน ทำแล้วดูเหมือนไม่ได้ทำ เพราะการใช้เข็มเล็ก ๆ แทนพลังงานแสงแบบเลเซอร์ ทำให้ผิวด้านบนไม่ได้รับผลกระทบมาก จึงไม่ต้องกังวลเรื่องรอยดำหรือการระคายเคือง

อีกจุดที่ตอบโจทย์สำหรับใครหลายคนคือ ระยะเวลาพักฟื้นสั้นมาก ส่วนใหญ่หลังทำอาจมีรอยแดงเล็กน้อย แต่หายภายใน 3-7 วัน ผิวก็กลับมาเนียนใสพร้อมแต่งหน้าแล้ว แถมยังเหมาะกับทุกสีผิว ไม่ว่าจะผิวขาว ผิวสองสี หรือผิวเข้ม เพราะพลังงาน RF ไม่ทำลายเม็ดสีในผิวเลยค่ะ แต่ถ้าถามว่าเหมาะกับใคร? ก็ต้องบอกเลยว่าเหมาะกับคนที่อยากฟื้นฟูผิวแบบลึกและแก้ปัญหาผิวได้ตรงจุดค่ะ โดยเฉพาะคนที่มองหาวิธีที่ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้นนาน และอยากให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นแบบสัมผัสได้จริง ๆ


แก้ปัญหาผิวแบบตรงจุด คืนความมั่นใจให้ผิวสวยเนียนใส

แก้ปัญหาผิวแบบตรงจุด คืนความมั่นใจให้ผิวสวยเนียนใส

1. รูขุมขนกว้าง: กระชับผิวให้เนียนละเอียดเหมือนไม่เคยมีปัญหา

ใครที่กังวลเรื่องรูขุมขนกว้างจนผิวดูไม่เนียนละเอียด ลองใช้ Microneedle RF เป็นอีกทางเลือก ด้วยพลังงานคลื่นวิทยุที่ปล่อยลงไปในชั้นผิวจะช่วยจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวดูเนียนใส หลังทำไป 2-3 ครั้ง รูขุมขนที่เคยกว้างจะดูเล็กลงจนแทบสังเกตไม่เห็นค่ะ ที่สำคัญ ผิวจะรู้สึกกระชับขึ้นทันทีหลังทำ เหมาะกับคนที่อยากแก้ปัญหารูขุมขนกว้างแบบปลอดภัยและเห็นผลจริง

หลุมสิวลึก: บอกลาผิวไม่เรียบ ด้วยการกระตุ้นจากภายใน

สำหรับใครที่มีปัญหาหลุมสิวลึกจนแต่งหน้าไม่ติด หรือรู้สึกว่าผิวไม่เรียบเนียนอย่างที่ควรจะเป็น เราอยากแนะนำ Microneedle RF เลยค่ะ โดยสาเหตุหลุมสิวเกิดจากอะไร เกิดจากการที่คอลลาเจนใต้ผิวถูกทำลาย ทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดเป็นรอยบุ๋มลึก เทคโนโลยีนี้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นลึก ประมาณ 1-3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นชั้นที่เป็นต้นตอของปัญหา หลุมสิวจะค่อย ๆ ตื้นขึ้น และผิวจะเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผลลัพธ์เริ่มชัดเจนหลังทำประมาณ 3-4 ครั้ง ทุกคนจะรู้สึกได้เลยว่าผิวดูสุขภาพดีขึ้นแบบที่ใคร ๆ ก็ต้องทักแน่นอน

ริ้วรอยและความหย่อนคล้อย: เติมเต็มความกระชับ คืนผิวอ่อนเยาว์

ผิวที่เริ่มหย่อนคล้อยตามวัยหรือริ้วรอยเล็ก ๆ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยได้ ด้วยพลังงานคลื่นที่ปล่อยลงไปในชั้นผิว ผิวจะเกิดการกระชับจากภายใน ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว การทำงานในชั้นผิวลึก 60-70 องศาเซลเซียส ทำให้คอลลาเจนที่เสื่อมสภาพถูกกระตุ้นให้สร้างใหม่ ผิวจึงดูกระชับและเรียบเนียนขึ้นหลังทำเพียง 1-2 ครั้ง แถมยังรู้สึกได้ว่าผิวตึงขึ้นเหมือนย้อนวัยเหมือนใหม่

รอยแผลเป็น: ฟื้นฟูผิวเรียบเนียน คืนความมั่นใจ

สำหรับคนที่มีรอยแผลเป็น ไม่ว่าจะเกิดจากสิวหรือการผ่าตัด Microneedle RF เป็นตัวเลือกที่ดีมากค่ะ พลังงานคลื่น RF จะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย ทำให้รอยแผลดูจางลงและผิวเรียบเนียนขึ้น เพียงทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง รอยแผลเป็นที่เคยทำให้เสียความมั่นใจก็จะดูจางลง จนบางจุดอาจหายไปเลย ใครที่เคยกังวลเรื่องนี้ต้องลอง

สีผิวไม่สม่ำเสมอและรอยดำรอยแดง: ผิวใสสม่ำเสมอในทุกมิติ

สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือรอยดำรอยแดงจากสิวเป็นอีกปัญหาที่ Microneedle RF ช่วยได้ค่ะ คลื่นถี่จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและซ่อมแซมเซลล์ผิวจากภายใน ทำให้รอยเหล่านี้ค่อย ๆ จางลง หลังทำ 1-2 ครั้ง ผิวจะเริ่มดูสม่ำเสมอขึ้น และถ้าทำครบคอร์ส ผิวจะดูใสเปล่งปลั่งจนเหมือนมีออร่าเลยค่ะ ที่สำคัญคือใช้ได้กับทุกโทนสีผิว ไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียง

ผลลัพธ์หลังการรักษา: ผิวใหม่ที่คุณจะหลงรัก

ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาผิวเฉพาะจุด แต่เป็นการฟื้นฟูให้ผิวสุขภาพดีจากภายใน ผิวจะดูเรียบเนียน กระจ่างใส และกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหมือนผิวเกิดใหม่เลยค่ะ ใครที่กำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผิวแบบตรงจุดและไม่ยุ่งยาก Microneedle RF น่าจะเป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา อย่าลืมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม

Microneedle RF: ขั้นตอนการทำแบบละเอียด รู้ก่อนมั่นใจกว่า!

ก่อนการทำ: เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ก่อนที่เราจะเริ่มทำเพื่อฟื้นฟูผิวให้ปัง ต้องมีการเตรียมตัวกันนิดหน่อย การเตรียมผิวก่อนทำสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้การรักษาได้ผลดีและปลอดภัยที่สุด

  • งดแต่งหน้า: วันนัดทำควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า เพื่อให้ผิวสะอาดและลดโอกาสการระคายเคือง
  • งดยาบางชนิด: หากคุณใช้ยากลุ่มที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดหรือยารักษาสิว เช่น Isotretinoin (Accutane) ควรงดก่อนทำ 6 เดือน และแจ้งแพทย์ให้ทราบเสมอ
  • ปรึกษาแพทย์: ถ้าคุณมีประวัติแพ้ยา หรือกำลังทานยาที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสิว ฉีด Radiesse หรือโรคผิวหนัง ให้แจ้งแพทย์ก่อนทำ เพื่อปรับแผนการรักษาให้เหมาะสม

ระหว่างการทำ: ขั้นตอนที่ง่ายและสบายกว่าที่คิด

วันทำจริงไม่ต้องกังวลเลย เพราะทีมแพทย์จะดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าผิวของเราจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด

  1. การทายาชา: ก่อนเริ่มทำ แพทย์จะทายาชาบริเวณที่ต้องการรักษา ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที เพื่อให้ผิวรู้สึกสบาย ไม่เจ็บระหว่างทำ
  2. การใช้เครื่อง Microneedle RF: หลังจากล้างยาชาออก แพทย์จะเริ่มใช้เครื่อง RF Microneedling เข็มเล็ก ๆ จะถูกปล่อยลงไปในชั้นผิวพร้อมพลังงาน RF
  3. ความรู้สึกระหว่างทำ: ส่วนตัวเรารู้สึกเหมือน “ดีดยางเบา ๆ” บางจุด เช่น หน้าผากหรือกรอบหน้า อาจรู้สึกน้อยกว่าส่วนที่มีเนื้อเยอะอย่างแก้มเป็นต้น แต่ไม่ถึงกับเจ็บจนทนไม่ได้ ทั้งนี้ทางทีมแพทย์จะปรับความแรงให้เหมาะกับเราเสมอ

โดยรวมแล้ว การทำใช้เวลาเพียง 30-45 นาที เท่านั้นค่ะ เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อยและอยากดูแลผิวแบบเร่งด่วนค่ะหลังทำ Microneedle RF ผิวอาจมีอาการเล็กน้อย แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะนี่เป็นกระบวนการปกติที่ผิวกำลังฟื้นฟู ส่วนอาการที่อาจพบได้ นั่นคือ ผิวจะมีรอยแดงเล็ก ๆ หรือจุดแดงจากเข็ม แต่จะค่อย ๆ หายไปใน 1-2 วัน บางคนอาจมีอาการบวมเล็กน้อย แต่ลดลงภายใน 3-4 ชั่วโมง


ดูแลผิวหลังการทำ ฟื้นฟูผิวให้สวยใสอย่างมั่นใจ

ดูแลผิวหลังการทำ ฟื้นฟูผิวให้สวยใสอย่างมั่นใจ

หลังจากที่เราดูแลผิวด้วย Microneedle RF ไปแล้ว ขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้การรักษาก็คือการดูแลตัวเองหลังทำ เพราะการดูแลที่เหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์ของผิวดีขึ้นเร็วและคงความสวยใสได้นานขึ้น

  1. หลีกเลี่ยงออกแดดและต้องทาครีมกันแดด : หลังทำผิวของเราจะไวต่อแสงมากขึ้น ดังนั้นการหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดเป็นสิ่งสำคัญสุด ๆ และอย่าลืมทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ ทุกวันเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี ถ้าจำเป็นต้องออกแดด อย่าลืมใส่หมวกหรือกางร่มด้วยนะคะ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดรอยดำและป้องกันการระคายเคืองของผิว
  2. งดแต่งหน้าและหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิว : หลังทำผิวของเรายังอยู่ในช่วงฟื้นตัว แนะนำให้งดแต่งหน้าอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอุดตันและการติดเชื้อ และควรงดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, Retinol หรือสารกัดผิวอื่น ๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ ลองใช้สกินแคร์ที่มีเนื้อเบาและอ่อนโยนแทนค่ะ เช่น ครีมพาเทนนอลหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวบอบบาง
  3. เติมความชุ่มชื้น : หลังทำ บางคนอาจรู้สึกผิวแห้งกว่าปกติ เราแนะนำจากการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยกักเก็บน้ำในผิวอย่างมีประสิทธิภาพ และอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน ประมาณ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น ถ้าช่วงไหนรู้สึกผิวแห้งเป็นพิเศษ อาจลองมาส์กหน้าด้วยแผ่นมาส์กสูตรเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นตัวช่วยอีกแรงก็ได้เช่นกัน
  4. งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก : ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ หรือการอยู่ในที่ร้อนจัด เพราะเหงื่ออาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ ลองเปลี่ยนมาเดินเบา ๆ หรือทำกิจกรรมในห้องแอร์แทน
  5. ดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง : สุดท้าย การดูแลผิวหลังทำไม่ได้ยุ่งยากถ้าเราดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ผิวของเราจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และคุณจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เช่น ผิวกระจ่างใสขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น และผิวเรียบเนียนขึ้น ใครที่เพิ่งทำมา หรือกำลังจะลองทำ อย่าลืมนำเคล็ดลับนี้ไปใช้กัน

Microneedle RF คือ เหมาะกับใครบ้าง? เลือกให้ใช่ก่อนฟื้นฟูผิวให้ปัง

Microneedle RF คือ เหมาะกับใครบ้าง เลือกให้ใช่ก่อนฟื้นฟูผิวให้ปัง

1. ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้กระจ่างใสและสุขภาพดี : Microneedle RF เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่รู้สึกว่าผิวหน้าดูหมอง ไม่สดใส หรือเริ่มเห็นริ้วรอยเล็ก ๆ การใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ร่วมกับเข็มขนาดเล็ก จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวของคุณดูเรียบเนียน สุขภาพดีขึ้น และกระชับอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ

2. มีหลุมสิวและปัญหาผิวหย่อนคล้อย : ใครที่มีหลุมสิวลึกจนแต่งหน้าไม่เรียบ หรือรู้สึกว่าผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย เทคโนโลยีสามารถช่วยได้ค่ะ เพราะสามารถเจาะลึกถึงชั้นหนังแท้ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ หลุมสิวจะดูตื้นขึ้น และผิวจะกลับมาดูกระชับเหมือนเดิม

3. ต้องการผลชัดเจนแต่ไม่อยากพักฟื้นนาน : จุดเด่นของหัตถการนี้ คือ การทำงานที่ลึกถึงชั้นในของผิวโดยไม่ทำลายผิวชั้นบนเลยค่ะ อาการหลังทำ เช่น รอยแดงหรือจุดเล็ก ๆ มักหายไปภายในหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น ดังนั้นใครที่มีตารางงานแน่น ๆ ไม่ต้องกังวลเลย เพราะคุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วแน่นอน

ใครที่ควรเลี่ยงหัตการนี้

  • ผู้ที่มีแผลติดเชื้อบนใบหน้า: หากมีแผลที่ยังไม่หายสนิทหรือมีการอักเสบ ควรรอจนกว่าแผลจะหายก่อน เพราะระหว่างการทำอาจทำให้แผลระคายเคืองหรือเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร: ในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการใด ๆ เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกน้อย
  • ผู้ที่มีโรคผิวหนังเรื้อรัง: เช่น โรคสะเก็ดเงินหรือโรคผิวหนังอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจทำ
  • ผู้ที่ใช้ยารักษาสิวบางประเภท: เช่น Isotretinoin (Accutane) ควรหยุดยาอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนเริ่มการรักษาด้วย Microneedle RF

ข้อดีและข้อเสีย รู้ให้ครบก่อนตัดสินใจฟื้นฟูผิว

ข้อดีและข้อเสีย รู้ให้ครบก่อนตัดสินใจฟื้นฟูผิว

ฟื้นฟูผิวจากภายในโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน

Microneedle RF ทำงานลึกถึงชั้นในของผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งช่วยให้ผิวฟื้นฟูจากภายในโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการพักฟื้นยาวนานะ อาการที่อาจพบหลังทำ เช่น รอยแดงเล็ก ๆ มักหายไปเองใน หนึ่งสัปดาห์ และสามารถแต่งหน้าหรือกลับไปใช้ชีวิตปกติได้อย่างรวดเร็ว

เหมาะกับทุกสภาพผิว

ไม่ว่าจะเป็นผิวขาว ผิวสองสี หรือผิวเข้ม ก็สามารถทำได้ เพราะคลื่นพลังงานไม่ทำลายเม็ดสีในผิว จึงลดความเสี่ยงเรื่องรอยดำที่มักเกิดจากการทำเลเซอร์แบบเดิม ๆ ได้ดีมาก

ช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย

Microneedle RF เป็นเหมือนตัวช่วยอเนกประสงค์เลยค่ะ เพราะมันสามารถแก้ปัญหาหลุมสิว ริ้วรอย รูขุมขนกว้าง ผิวหย่อนคล้อย และแม้แต่รอยแผลเป็นจากการผ่าตัดได้ในหนึ่งเดียว ผิวที่ได้หลังทำจึงดูเรียบเนียน กระจ่างใส และกระชับขึ้นคล้ายกับยิงV-beam laser แต่ผลลัพธ์นั้นอยู่ได้นานและตรงจุดกว่า

ข้อเสีย: สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ

อาจรู้สึกไม่สบายระหว่างการทำ

แม้ว่าจะมีการทายาชา แต่ระหว่างทำคุณอาจรู้สึกเหมือน “ดีดยาง” เบา ๆ บนผิว หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกตึง ๆ และอุ่นจากพลังงานคลื่นโดยเฉพาะบริเวณที่ผิวบอบบาง อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกนี้จะอยู่ไม่นาน และทีมแพทย์สามารถปรับความแรงของเครื่องให้เหมาะกับเราได้

ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

สำหรับใครที่อยากได้ผลลัพธ์ที่ดี อาจต้องทำ Microneedle RF หลายครั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อครั้งอยู่ที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคลินิกและพื้นที่ที่รักษา ทำให้การรักษาเต็มคอร์สอาจใช้เงินหลายหมื่นบาท แต่ถ้ามองว่าเป็นการลงทุนเพื่อผิวในระยะยาว ก็ถือว่าคุ้มค่า

ต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สำหรับปัญหาผิวที่ลึกหรือรุนแรง เช่น หลุมสิวลึกมาก อาจต้องทำซ้ำประมาณ 3-5 ครั้ง เพื่อเห็นผลชัดเจนที่สุด ซึ่งแต่ละครั้งต้องเว้นระยะห่าง 3-6 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวได้ฟื้นตัวเต็มที่ก่อน


หากพูดถึงตัวช่วยที่สามารถฟื้นฟูผิวได้ลึกและตรงจุด Microneedle RF ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ที่สุดเลย ไม่ว่าจะเป็นหลุมสิวลึกที่เคยกวนใจ ริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เริ่มปรากฏ หรือปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่ทำให้เรารู้สึกไม่มั่นใจ เทคโนโลยีนี้ช่วยดูแลผิวของเราได้อย่างครอบคลุมและเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือมันสามารถช่วยให้ผิวของเรากลับมาสวยสุขภาพดีได้โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน สำหรับใครที่เริ่มสนใจและอยากลอง เราแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนจะดีที่สุด เพราะคุณจะได้รับการประเมินผิวอย่างละเอียด ช่วยให้ได้แผนการรักษาที่เหมาะสมและเห็นผลที่สุด เลือกคลินิกที่ไว้ใจได้และดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ รับรองว่าผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่ากับการลงทุนในผิวของเรา อย่าปล่อยให้ปัญหาผิวมาขัดความมั่นใจ ลองให้ทำเลยวันนี้ เปลี่ยนผิวของคุณสุขภาพดีและเปล่งประกายอีกครั้ง


คำถามที่พบบ่อย

  1. Microneedle RF เจ็บไหม?

    ระหว่างทำจะมีการทายาชาเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม คุณอาจรู้สึกเหมือนดีดยางเบา ๆ หรืออุ่น ๆ ที่ผิวเล็กน้อยในบางจุด แต่โดยรวมถือว่าเจ็บน้อยและสามารถทนได้

  2. ต้องทำ Microneedle RF กี่ครั้งจึงจะเห็นผล?

    จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและเป้าหมายที่ต้องการ โดยทั่วไปมักแนะนำให้ทำประมาณ 3-5 ครั้ง ห่างกันทุก 3-6 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวและสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างเต็มที่ ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นหลังการทำครั้งที่สองหรือสาม

  3. Microneedle RF เหมาะกับใครบ้าง?

    หัตถการนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหลากหลาย เช่น หลุมสิวลึก ผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง หรือริ้วรอยเล็ก ๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือมีโรคผิวหนังเฉพาะทาง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

  4. ต้องดูแลผิวอย่างไรหลังการทำ Microneedle RF?

    หลังทำควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง งดแต่งหน้าหรือใช้สกินแคร์ที่มีสารกัดผิวเป็นเวลา 48 ชั่วโมง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ รวมถึงดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในอย่างมีประสิทธิภาพ


อ้างอิง

  1. Kirsten Nunez, All About Radiofrequency Microneedling, Healthline, January 20, 2021, https://www.healthline.com/health/radiofrequency-microneedling
  2. Radio Frequency (RF) Microneedling, Cleveland Clinic, August, 2022, https://my.clevelandclinic.org/cosmetic-plastic-surgery/procedures/radio-frequency-rf-microneedling
  3. I Tried RF Microneedling—Here’s Everything You Need to Know, Elle, January 31, 2023, https://www.elle.com/beauty/makeup-skin-care/a42719951/rf-microneedling-faq-facts-cost/