รีจูรันช่วยเรื่องอะไร ทาหรือฉีดดี? แก้ปัญหาผิวได้ครบจบในขั้นตอนเดียว

Rejuran (รีจูรัน) เป็นนวัตกรรมด้านการดูแลผิวที่ได้รับความนิยมสูงจากเกาหลีใต้ หลายคนอาจสงสัยว่า รีจูรันช่วยเรื่องอะไร ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกและปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี รีจูรันใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่สกัด polynucleotides (PN) จาก DNA ของปลาแซลมอนซึ่งมีความใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์ถึง 98% ทำให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การนำ PN มาใช้ในการฟื้นฟูผิวนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับในวงการความงามทั่วโลก เพราะไม่เพียงแค่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียหาย แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว

อย่างไรก็ตาม Rejuran ไม่ได้มาในรูปแบบของการฉีดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีผลิตภัณฑ์ในรูปแบบทาที่ออกแบบมาเพื่อการบำรุงผิวประจำวัน ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า “ควรเลือกใช้ Rejuran ในรูปแบบทาหรือฉีดดี?” ทั้งสองวิธีต่างมีข้อดีเฉพาะตัว การฉีดสามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึก ในขณะที่การทาให้ผลลัพธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไป เหมาะสำหรับการบำรุงผิวประจำวัน บทความนี้จะพาคุณสำรวจถึงประโยชน์ของทั้งสองรูปแบบ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการในการดูแลผิวของคุณมากที่สุด


รีจูรันช่วยเรื่องอะไร ได้บ้าง?

รีจูรันช่วยเรื่องอะไร ได้บ้าง

ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว

สาร Polynucleotide (PN) ที่สกัดจาก DNA ของปลาแซลมอนใน Rejuran มีคุณสมบัติเด่นในการฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียหาย สามารถช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิวในระดับลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างผิวที่อ่อนแอจะได้รับการเสริมสร้างใหม่ ทำให้ผิวดูแข็งแรงขึ้นและทนทานต่อมลภาวะในชีวิตประจำวันได้ดี นอกจากนี้ รีจูรันช่วยเรื่องอะไร ? สารนี้ยังช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไป ซึ่งช่วยให้การบำรุงผิวใหม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น โดยในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์แรกหลังฉีด ผู้ใช้จะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวในแง่ความแข็งแรงและความเนียนเรียบที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

ลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่น

กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ในการทดลองทางคลินิกพบว่าการฉีด ช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้ถึง 21.78% ซึ่งช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและยืดหยุ่นขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ จะค่อย ๆ ลดเลือนลง ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นและมีความเรียบเนียน โดยเฉพาะบริเวณที่มีรอยย่นหรือร่องลึก เช่น ร่องแก้มและหน้าผาก ซึ่งจะแสดงผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดภายใน 4-6 สัปดาห์

เพิ่มความชุ่มชื้นและความกระจ่างใส

นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก โดยการทำให้ผิวเก็บน้ำไว้ในชั้นเซลล์ได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผิวดูอิ่มน้ำและไม่แห้งกร้าน การทดลองพบว่าการใช้ Rejuran สามารถเพิ่มระดับความชุ่มชื้นของผิวได้ถึง 14.69% ทำให้ผิวมีความเปล่งปลั่งและดูสดใสมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเติมน้ำให้ผิวยังช่วยให้ผิวดูอ่อนนุ่มและลดอาการระคายเคือง ผิวจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปในลักษณะที่สดใส กระจ่างใส และเรียบเนียนขึ้น ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนในช่วง 1 เดือนหลังการฉีด

ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

สำหรับผู้ที่มีปัญหารอยแดง, รอยดำ, หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ Rejuran เป็นตัวช่วยที่ดีในการปรับสีผิวให้เรียบเนียนและสม่ำเสมอมากขึ้น โดยสาร Polynucleotide จะทำหน้าที่ลดการอักเสบและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยแดง รอยดำจางลง สีผิวที่เคยหมองคล้ำกลับมาสดใส โดยจะสังเกตเห็นความเรียบเนียนและความสม่ำเสมอของสีผิวได้ภายในระยะเวลา 4-6 สัปดาห์

ฉีด Rejuran เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ และหมองคล้ำ: สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าผิวแห้งกร้านและขาดความชุ่มชื้น Rejuran ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นสู่ผิวและปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ผิวที่เคยหมองคล้ำจะกลับมาสดใสและดูสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน
  2. ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยและหลุมสิว: เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและจัดการปัญหาหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติในการลดรอยดำ รอยแดงจากสิว และฟื้นฟูผิวที่เคยเป็นหลุม ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
  3. ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน: สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาวในการเสริมสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว หัตถการเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากช่วยให้ผิวดูเต่งตึง กระชับ และฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเห็นได้ชัด
  4. ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป: Rejuran เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเผชิญปัญหาผิวและริ้วรอยจากอายุที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวัย 20 ปลาย ๆ เป็นต้นไป การฉีดรีจูรีนช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี กระจ่างใส และดูสดชื่นขึ้น
  5. ผู้ที่ต้องการผิวฉ่ำวาว: Rejuran ช่วยให้ผิวดูโกลว์แบบธรรมชาติ เนียนนุ่มและอิ่มน้ำ เปลี่ยนผิวที่แห้งกร้านให้กลายเป็นผิวสวยฉ่ำวาวในแบบที่สาวเกาหลีหลายคนชื่นชอบ

รีจูรันช่วยเรื่องอะไร แบบทากับฉีด ต่างกันอย่างไร?

รีจูรันช่วยเรื่องอะไร แบบทากับฉีด ต่างกันอย่างไร

ผลิตภัณฑ์แบบทา (Skincare Products):

  • ประเภทของผลิตภัณฑ์: รีจูรันแบบทาจะมาในหลายรูปแบบ เช่น เซรั่ม, ครีม, โทนเนอร์, และมาสก์ โดยทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อการใช้บำรุงผิวทุกวัน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว เพิ่มความชุ่มชื้นและความเรียบเนียน ให้ผิวดูสุขภาพดีและนุ่มนวล
  • ประโยชน์: การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง สามารถช่วยรักษาสภาพผิวให้แข็งแรงในระยะยาว และค่อยๆ ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวเป็นประจำและเสริมสุขภาพผิวทุกวัน
  • ข้อดี: การทาเป็นวิธีการบำรุงที่สะดวก ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น สามารถใช้ได้ทุกวันตามต้องการ เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกสบายและไม่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน
  • ข้อควรพิจารณา: ผลลัพธ์ของการใช้ผลิตภัณฑ์ทาจะใช้เวลานานกว่าการฉีด และการเปลี่ยนแปลงที่ได้อาจไม่ลึกซึ้งเท่าการฉีด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสุขภาพผิวโดยรวมมากกว่าการฟื้นฟูอย่างเข้มข้น

รูปแบบฉีด (Injections)

  • กระบวนการฉีด: เป็นการฉีดสาร Polynucleotide (PN) เข้าสู่ชั้นผิวที่ลึก ซึ่งช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน โดยสาร PN จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเสริมความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ประโยชน์: การฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว โดยผู้ใช้จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 1-2 สัปดาห์หลังการฉีด ผิวจะดูเรียบเนียน ชุ่มชื้น และมีความอ่อนเยาว์ขึ้น ช่วยลดริ้วรอยและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับชั้นผิว
  • ข้อดี: ผลลัพธ์ของการฉีด มีความยาวนานกว่าการทา ซึ่งมักคงอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งการฉีดให้เข้ากับตำแหน่งและปัญหาผิวที่เฉพาะเจาะจง ทำให้การฟื้นฟูผิวมีความแม่นยำและเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ข้อควรพิจารณา: การฉีดควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อความปลอดภัย และอาจต้องการเวลาพักฟื้นเล็กน้อย บางรายอาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยหลังฉีดประมาณ 1-2 วัน แต่จะค่อยๆ หายไปในระยะสั้น

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีด Rejuran

  1. ผู้ที่แพ้อาหารทะเล: เนื่องจากสารสกัดมาจากปลาแซลมอน อาจเสี่ยงต่อการแพ้ได้
  2. สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร: ควรหลีกเลี่ยงการฉีดในช่วงนี้เพื่อความปลอดภัย
  3. ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเกี่ยวกับเม็ดเลือด: เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE), โรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  4. ผู้ที่มีการตอบสนองไวต่อสารโซเดียมโพลีนิวคลีโอไทด์ (Sodium Polynucleitide): ควรตรวจสอบกับแพทย์ก่อนฉีด
  5. ผู้ที่เคยฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Stimulators) อย่าง Sculptra และ Ellanse มาก่อน: อาจมีความเสี่ยงในการเกิดปฏิกิริยากับสารในรีจูรัน

รีจูรันช่วยเรื่องอะไร แบบไหนเหมาะกับใคร?

รีจูรันช่วยเรื่องอะไร แบบไหนเหมาะกับใคร

แบบทา

รีจูรันแบบทามีความเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวเป็นประจำในระยะยาวโดยไม่ต้องการฟื้นฟูผิวผลิตภัณฑ์ทา เช่น เซรั่ม ครีม หรือมาสก์ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการดูแลผิวที่ต้องการความชุ่มชื้น และการบำรุงที่ต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีผิวค่อนข้างแข็งแรงอยู่แล้ว แต่อยากเสริมให้ผิวสุขภาพดีและป้องกันการเสื่อมสภาพจากปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดดและมลภาวะ การใช้แบบทาสามารถทำได้ทุกวัน โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาในการพักฟื้น และเป็นวิธีที่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการคงความเรียบเนียนและความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ

แบบฉีด

Rejuran แบบฉีดเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวลึก เช่น ริ้วรอยลึก จุดด่างดำจากการเสื่อมสภาพของผิว และผิวหมองคล้ำอย่างหนัก การฉีด Polynucleotide (PN) เข้าสู่ชั้นผิวลึกจะช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูและยืดหยุ่นมากขึ้น ผลลัพธ์จากการฉีดจะเห็นผลได้ชัดภายใน 1-2 สัปดาห์หลังการรักษา โดยมักอยู่ได้นาน 3-4 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูแบบเข้มข้นและรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การฉีดจะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญและอาจต้องพักฟื้นเล็กน้อยหลังการทำ

วิธีเตรียมตัวก่อนฉีด Rejuran

  1. หลีกเลี่ยงการใช้ยาและอาหารเสริมบางชนิด: ควรหยุดการใช้ยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ยากลุ่ม NSAIDs, วิตามินอี, วิตามินซี, สมุนไพรอย่างขิงหรือแปะก๊วย ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนการฉีด
  2. งดการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มีผลทำให้ผิวแห้งกร้านและเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง ควรหลีกเลี่ยงเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีด
  3. แจ้งแพทย์ถึงโรคประจำตัวและยาที่ใช้: หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อประเมินความเสี่ยง
  4. พักผ่อนให้เพียงพอและดื่มน้ำมากๆ: เตรียมผิวให้พร้อมโดยการพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นและพร้อมรับการรักษา
  5. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า: ในวันที่จะฉีด ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าเพื่อความสะอาดและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ หรือหากเพิ่งทำหัตถการ Microneedling ก็ควรหยุดก่อน หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนก็ดีกว่า

ข้อพิจารณาในการเลือกใช้

  1. ความต้องการเฉพาะของผิว: หากต้องการการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่องและไม่เร่งด่วน Rejuran แบบทาอาจตอบโจทย์ได้ดี ในขณะที่แบบฉีดเหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรณีที่มีปัญหาริ้วรอยลึกหรือผิวเสื่อมสภาพ
  2. งบประมาณ: การใช้ Rejuran แบบทามีค่าใช้จ่ายที่ย่อมเยากว่า ทำให้สามารถใช้บำรุงได้ทุกวันโดยไม่สิ้นเปลืองมาก ในขณะที่แบบฉีดมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่ให้ผลลัพธ์ที่ลึกและรวดเร็วกว่า
  3. ระยะเวลาและความสะดวกในการดูแลหลังการทำ: รีจูรันแบบทาสามารถใช้ได้ทุกวันและไม่ต้องการเวลาพักฟื้น ส่วนแบบฉีดอาจต้องการเวลาพักฟื้นเล็กน้อย และการทำควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย
  4. ระดับการฟื้นฟูที่ต้องการ: หากต้องการฟื้นฟูผิวลึกถึงชั้นเซลล์และเห็นผลได้ชัดเจนภายในระยะเวลาอันสั้น แบบฉีดจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า ในขณะที่แบบทาให้การบำรุงผิวในระยะยาว ค่อยๆ ปรับปรุงผิวอย่างคงที่

Rejuran ครอบคลุมการดูแลผิวในขั้นตอนเดียวอย่างไร?

Rejuran ครอบคลุมการดูแลผิวในขั้นตอนเดียวอย่างไร

Rejuran ถือเป็นนวัตกรรมการดูแลผิวที่ครบครันในขั้นตอนเดียว ครอบคลุมทุกความต้องการของผิว ตั้งแต่การฟื้นฟู บำรุง และเสริมสร้างสุขภาพผิวจากภายใน การทำงานของสารเน้นการใช้สาร Polynucleotide (PN) ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและการฟื้นฟูเซลล์ผิว ทำให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์และแข็งแรงกว่าเดิม

การฟื้นฟูและบำรุงผิวที่ครบครัน:

Rejuran ช่วยฟื้นฟูผิวในหลายด้าน ทั้งการลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูกระจ่างใส และกระชับผิว โดยสาร PN สามารถเข้าไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้ในระดับลึก ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและดูอ่อนกว่าวัย การใช้ Rejuran ยังส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ป้องกันการแห้งกร้านและเสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเปล่งปลั่ง

ประโยชน์ของการใช้ Rejuran เป็นประจำ หรือการฉีดในคลินิก

สำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวเป็นประจำ Rejuran แบบทาในรูปของเซรั่มหรือครีมเหมาะสำหรับการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง เพื่อคงสภาพผิวให้ชุ่มชื้น กระจ่างใส และเรียบเนียน ในขณะที่การใช้ Rejuran แบบฉีดในคลินิกจะเป็นการฟื้นฟูอย่างล้ำลึก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวเสื่อมสภาพ หรือรูขุมขนกว้าง การฉีด Rejuran เข้าสู่ผิวชั้นลึกจะช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวได้ในเวลาอันสั้น โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ ผิวจะดูสดใส เต่งตึง และมีความอ่อนเยาว์ยาวนาน

การใช้ Thermage เสริมความกระชับผิวคู่กับ Rejuran

นอกเหนือจากการใช้ Rejuran เพื่อบำรุงและฟื้นฟูผิวแล้ว การทำ Thermage (เทอร์มาจ) เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สามารถใช้เสริมความกระชับให้ผิวได้ดี เทอร์มาจใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency) ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกระชับโครงสร้างผิวชั้นใน ทำให้ผิวดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังทำ การทำเพียงครั้งเดียวสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 6-12 เดือน และยิ่งเมื่อทำร่วมกับ Rejuran แบบฉีด ผิวจะได้รับการฟื้นฟูทั้งในด้านการกระชับและการบำรุงให้ดูอิ่มฟู สดใสขึ้นอีกระดับ

การฉีด Rejuran แตกต่างจาก Skin Booster อย่างไร?

วัตถุดิบหลักที่ใช้:

  • Rejuran: ใช้สาร Polynucleotide (PN) ที่ได้จาก DNA ของปลาแซลมอน ซึ่งมีโครงสร้างใกล้เคียงกับมนุษย์ ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิวจากภายใน เน้นการฟื้นฟูเซลล์ผิวและแก้ไขริ้วรอย
  • Skin Booster: มักใช้ส่วนผสม Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเน้นในการให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ และลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ มากกว่า

กลไกการทำงาน:

  • Rejuran: ทำงานโดยการฉีดสาร PN เข้าสู่ผิวชั้นลึกเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเสริมสร้างความแข็งแรงของผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและสุขภาพดีขึ้น
  • Skin Booster: เน้นที่การเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยตรง ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู เช่น การฉีด PRP หน้าใส ช่วยให้เรียบเนียนและกระจ่างใสชั่วคราว แต่ไม่มีการกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ในระดับลึกเท่ากับ Rejuran

ผลลัพธ์ที่ได้:

  • Rejuran: ให้ผลลัพธ์ระยะยาวและสามารถแก้ปัญหาผิวที่ลึกกว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยอย่างยั่งยืนและฟื้นฟูผิวเสื่อมสภาพ
  • Skin Booster: เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นและความสดใสในทันที โดยให้ผลลัพธ์ในระยะสั้นและต้องทำซ้ำบ่อยกว่า

Rejuran เป็นตัวช่วยฟื้นฟูและดูแลผิวที่ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งในรูปแบบทาและฉีด ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน การใช้รีจูรันในรูปแบบแบบทา เหมาะสำหรับการบำรุงผิวในทุกวัน ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและเรียบเนียน ในขณะที่การฉีดนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูอย่างเข้มข้นและรวดเร็ว โดยสาร Polynucleotide จะซึมลึกสู่ผิวชั้นในเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้ครบในทุกมิติ Rejuran นับว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ, เรียบเนียน, ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ


คำถามที่พบบ่อย

  1. Rejuran เหมาะกับสภาพผิวแบบใดบ้าง?
    Rejuran เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวที่เสียหายจากริ้วรอย หลุมสิว หรือสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ทั้งยังเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำจากแสงแดด และผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูสดใสขึ้น
  2. การใช้ Rejuran แบบทาและแบบฉีดต่างกันอย่างไร?
    ในผลิตภัณฑ์แบบทา เหมาะสำหรับการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและเนียนนุ่ม ในขณะที่แบบฉีดจะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเข้มข้นกว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวลึกถึงชั้นเซลล์อย่างรวดเร็ว สามารถเห็นผลได้ชัดเจนในเวลา 1-2 สัปดาห์
  3. Rejuran แบบฉีดอยู่ได้นานแค่ไหน?
    ผลลัพธ์จากการฉีดรีจูรันมักอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและสภาพผิวของแต่ละบุคคล การรักษาผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องสามารถทำได้โดยการฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ผิวดูอิ่มฟูและสุขภาพดี
  4. ควรใช้ Rejuran บ่อยแค่ไหนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด?
    สำหรับแบบทา สามารถใช้ได้ทุกวันเพื่อการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ Rejuran แบบฉีดมักแนะนำให้ทำทุก 3-4 เดือน เพื่อให้ผิวคงสภาพที่ดี การใช้ผลิตภัณฑ์หรือเข้ารับการฉีดเป็นประจำจะช่วยเสริมให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสในระยะยาว

อ้างอิง

  1. Polynucleotide injection treatment for iatrogenic fat atrophy in two patients: Potential for safe volumization in aesthetic medicine, onlinelibrary, August 13, 2023, https://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/srt.13439.
  2. Changsik John Pak, A New Concept of Regenerative Filler, November, 2014, https://www.researchgate.net/publication/269416487_A_Phase_III_Randomized_Double-Blind_Matched-Pairs_Active-Controlled_Clinical_Trial_and_Preclinical_Animal_Study_to_Compare_the_Durability_Efficacy_and_Safety_between_Polynucleotide_Filler_and_Hyaluron
  3. Shin So-young, ‘Rejuran Healer’ that makes your skin glow is said to be very painful… but is it completely effective? , Chosun, March 12, 2024, https://m.health.chosun.com/svc/news_view.html?contid=2024031200923.